|
ชื่อสามัญ : Rose
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Rose
hybrida Rosa chinensis.
ตระกูล : ROSACEAE
|
|
|
พันธุ์กุหลาบที่ใช้ปลูกเป็นไม้มงคล |
|
|
1.
พันธุ์กุหลาบสีขาว ได้แก่
- Misty Morn
- Blanche Mallerine
- White Christmas
2. พันธุ์กุหลาบดอกสีเหลือง ได้แก่
- King's Ransom
- Golden Master Piece
3. พันธกุหลาบุ์ดอกสีแดง ได้แก่
- Christian Dior
- Swarthmore
- Scarlet Knight
4. พันธุ์กุหลาบดอกสีชมพู
- Bel Ange
- Queen Elizabeth
5. พันธุ์กุหลาบดอกสีแสด ได้แก่
- Super Star
- Tanya
6. พันธุ์กุหลาบดอกสีม่วง
- Blue Moon |
|
|
ลักษณะทั่วไปของกุหลาบ |
|
|
|
|
|
กุหลาบเป็นพรรณไม้ยืนต้น
เป็นพุ่มขนาดเล็ก ลำต้นมีความยาวประมาณ 30-200 เซนติเมตร
ลำต้นเตี้ยและสูง มีหนาม
หรือไม่มีแล้วแต่ชนิดพันธุ์ลำต้นสีเขียวเมื่อแก่จะเป็นสีน้ำตาลแตกกิ่งก้านมารอบต้นใบเป็นใบรวมแตกออกจากกิ่งก้านก้าน
ใบจะมีหูใบติดอยู่ด้วยลักษณะใบโคนใบมนปลายใบแหลมขอบใบมีหยักเล็กน้อยตัวใบนิ่มมีสีเขียวใบจะออกจากก้านใบเป็น
คู่ขนาดความกว้างของใบประมาณ 2-4 เซนติเมตรยาวประมาณ35เซนติเมตรดอกเป็นดอกเดี่ยวมีก้านดอกยาวแตกออกจาก
ปลายกิ่งหรือง่ามใบที่กิ่งลักษณะดอกเป็นกลีบเรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆประมาณ
4-6 ชั้นดอกมีกลีบ 5-15 กลีบขอบดอกเรียบ
ตรงกลางดอกมีเกสรตัวผู้และตัวเมียอยู่รวมกันดอกมีกลิ่นหอมอ่อนๆดอกบานมีความกว้างประมาณ
2-6 เซนติเมตรลักษณะ
ของลำต้นใบดอกแตกต่างกันไปตามชนิดพันธุ์ |
|
|
การเป็นมงคลของกุหลาบ |
|
|
คนไทยโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นกุหลาบไว้ประจำบ้านจะทำให้คนในบ้านมีคุณค่าแห่งชีวิตที่สูงเพราะกุหลาบได้รับ
การยกย่องให้เป็นราชินีแห่งอุทยาน(Queen of the Garden)เนื่องจากดอกมีรูปร่างสีสรรที่สวยงามนอกจากนี้คน
ไทยโบราณยังเชื่ออีกว่าบ้านใดปลูกต้นกุหลาบไว้ประจำบ้านจะทำให้เกิดความสง่าภาคภูมิเพราะกุหลาบดอกใหญ่ขณะ
ชูช่อบานนั้นดูโดดเด่นเห็นเป็นสง่าแก่บุคคลทั่วไป |
|
|
ตำแหน่งที่ปลูกกุหลาบและผู้ปลูก |
|
|
เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย ควรปลูกต้นกุหลาบไว้ทางทิศตะวันออก ผู้ปลูกควรปลูกในวันพุธ
เพราะโบราณเชื่อ
ว่า การปลูกไม้เอาประโยชน์ทางดอกให้ปลูกในวันพุธ นอกจากนี้ถ้าจะให้เป็นสิริมงคลแก่ตนเองผู้ปลูกควรเป็ฯสุภาพสตรี
เพราะกุหลาบเป็นราชินีแห่งอุทยาน ดังนั้นชื่อจึงเหมาะสมอย่างยิ่งกับสุภาพสตรี
|
|
|
การปลูกกุหลาบ
วิธีที่นิยมปลูกมี 2 วิธี คือ |
|
|
1. การปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณหน้าบ้านเพื่อความโดดเด่น
และสว่างามของตนเอง ขนาหลุมปลูก 30 x 30 x 30 เซนติเมตร
ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา 1 : 2 ผสมดินปลูก
2. การปลูกในกระถางเพื่อประดับภายนอกอาคารบ้านเรือน ควรใช้กระถางทรงสูงขนาด 10-16
นิ้ว ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
: ขุยมะพร้าวหรือแกลบผุ:ดินร่วนอัตราอย่างละ1ส่วนผสมดินปลูกควรเปลี่ยนกระถางปีละครั้ง
เพื่อเปลี่ยนดินปลูกใหม่ทด
แทนดินปลูกเดิมที่เสื่อมสภาพไป และเพื่อความเหมาะสมของการเจริญเติบโตของทรงพุ่มด้วย |
|
|
การดูแลรักษากุหลาบ |
|
|
แสง ต้องการแสงแดดจัดกลางแจ้ง
น้ำ ต้องการปริมาณน้ำปานกลางควรให้น้ำ
5-7 วัน/ครั้ง
ดิน ดินร่วนซุย ดินร่วนปนทราย ร่วนเหนียว มีความชื้นปานกลาง ระบายน้ำได้ดี
ปุ๋ย ควรใส่ปุ๋ยคอก
หรือปุ๋ยหมัก อัตรา1-2 กิโลกรัม/ต้น ใส่ 1-2 เดือน/ครั้ง
การขยายพันธ์ การปักชำ การตอน การทาบกิ่ง การติดตา
วิธีที่นิยมและได้ผลดี การปักชำ การติดตา และการตอน
โรค โรคใบจุด
อาการ มีจุดสีดำบนใบ
ทำให้ใบเหลือง และร่วงในเวลาต่อมา
การป้องกัน ควรฉีดยาป้องกันก่อนถึงฤดูฝน เพราะเชื้อราชนิดนี้ระบาดในฤดูฝน
ใช้ยาคูปราวิท ไดเทนเอ็ม -45 อัตราและวิธีใช้ระบุตามฉลาก
การรักษา ใช้ยาแคปแทน เบนเลท อัตราและคำแนะนำระบุไว้ตามฉลาก
แมลงศัตรู หนอนเจาะดอก
อาการ กลีบดอกเป็นแผล เป็นรู ทำให้ดอกแคระแกร็น และเสียรูปทรง
การป้องกัน รักษาความสะอาดบริเวณแปลงปลูกฉีดยาป้องกันขณะกุหลาบเดิดดอกใหม่
ในช่วงฤดูหนาว
ใช้ยาดิลดริน อัตราและคำแนะนำระบุไว้ตามฉลาก
การกำจัด ใช้ยาดิลดริน
ฟอสดริน อัตราและคำแนะนำระบุไว้ตามฉลาก
|
|
|
|
|