| สินค้าทั้งหมด |
|Home|About us|Community|Products|Service|Design garden|วมLink|แหล่งข้อมูล|ข้อเสนอแนะ|โฆษณา|FAQs|About webmaster|

maipradab.com
6/1 หมู่ 11 คลอง15 ศูนย์พันธุ์
ไม้ดอกไม้ประดับที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ต.บางปลากด อ.องครักษ์ จ.นครนายก 26120
E-mail : webmaster@maipradab.com
Tel.(037)332039,(01)8469556

  | ไม้ประดับมงคล


คอลัมน์ทิศทางเกษตร:"เบญจมาศ"ปลูกได้งาม...ยามหน้าหนาว

เบญจมาศ เป็นพันธุ์ไม้ดอกเมืองหนาว ที่มีถิ่นกำเนิดเดิมในประเทศจีน ปัจจุบันมีการปลูกเบญจมาศเป็นอาชีพและเป็นรายได้หลัก บางพื้นที่สามารถปลูกได้ตลอดปี เช่น ทางภาคเหนือ โดยเฉพาะที่ ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ มีการปลูกไม้ดอกเมืองหนาวกันมาก คุณบุญมี อำนวยสุข และครอบครัว ใช้พื้นที่กว่า 3 ไร่ ปลูกเบญจมาศตัดดอกขายให้กับผู้รับซื้อ เพื่อส่งไปจำหน่ายที่กรุงเทพฯ เป็นเวลา 24 ปีมาแล้ว และจะทำอาชีพนี้ต่อไป ตามความต้องการของตลาด เพราะเบญจมาศเป็นไม้ตัดดอก ที่มีความนิยมสูง ไม่ว่าจะเป็นดอกเดี่ยวหรือดอกช่อ ซึ่ง ปัจจุบันมีพันธุ์ใหม่ ๆ ที่ให้ดอกใหญ่ ดอกซ้อน สีสด และลำต้นสูง รวมไปถึงความคงทนอยู่ได้นาน เมื่อนำไปประดับในแจกันอีกด้วย

เบญจมาศเป็นพันธุ์ไม้ที่ขึ้นได้ดีในดินร่วน ดินปนทรายที่มีอินทรีย์วัตถุมาก และเป็นดินที่เก็บรักษาความชุ่มชื้นได้ดี แต่ไม่ชอบน้ำและชื้นแฉะมาก เพราะอาจทำให้ต้นไม้ตายได้ ดังนั้นก่อนที่จะลงมือปลูก จะต้องทำการไถพื้นที่และตากดินไว้นาน 15 วัน แล้วจึงทำการยกร่องและลงปุ๋ยคอก นำต้นกล้าที่ชำไว้ ซึ่งได้มาจากกิ่งแขนงหลังจากตัดกิ่งดอก ยาวไม่ต่ำกว่า 70 เซนติเมตร กิ่งแขนงจะเกิดขึ้นมาตามซอกก้านใบที่อยู่ด้านล่างลงมา นำกิ่งที่ยาวประมาณ 3 นิ้วไปแช่น้ำยาเร่งราก ก่อนนำไปปักชำบนแปลง ขี้เถ้าแกลบ รดน้ำเช้า-เย็นในช่วงแรก แล้วคลุมด้วยซาเลนสีดำนาน 15 วัน กิ่งชำจะแตกรากพร้อมที่จะนำไปปลูกลงแปลงที่เตรียมไว้ หลังจากปลูกแล้ว 7 วัน จึงจะให้ปุ๋ยครั้งแรกด้วยสูตร 16-16-16 และช่วงบำรุงดอกด้วยปุ๋ยสูตร 12-24-12 จนกระทั่งเดือนสุดท้าย (ก่อนตัดดอกออกจำหน่าย) ให้บำรุงปุ๋ยด้วยสูตร 14-14-21 เบญจมาศอายุ 4 เดือน จึงตัดจำหน่ายได้ โดยตัดกิ่งยาว 70 เซนติเมตร ตามที่ตลาดต้องการ

เมื่อลมหนาวมาเยือนย่อมเป็นโอกาสดีของผู้ที่ต้องการจะปลูกเบญจมาศไว้เป็นไม้ประดับบ้าน แต่ดินที่ปลูกควรผสมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักและใบไม้แห้ง โดยเฉพาะใบก้ามปูหรือใบทองหลางที่ผุเปื่อยแล้ว ถึงแม้เบญจมาศไม่ต้องการน้ำมาก เพราะจะทำให้รากและลำต้นเน่าตาย แต่ถ้าน้ำน้อยและดินแห้งจนเกินไปก็อาจทำให้ต้นแคระแกร็นได้ ในการปลูกควรเป็นบริเวณดินระบายน้ำได้ดีและไม่อยู่ในที่ร่ม ถ้าจำเป็นต้องปลูกในกระถางควรใช้อิฐทุบรองพื้นกระถางเพื่อสะดวกต่อการระบายน้ำ การให้ปุ๋ยบำรุงต้นและดอก ก็เช่นเดียวกับที่กล่าวมาข้างต้น แต่ไม่ต้องดูแลเหมือนกับที่ปลูกเป็นอาชีพ คือ ต้องขึงลวดเป็นตารางสี่เหลี่ยมรอบ ๆ แต่ละด้านเพื่อป้องกันต้นล้ม แต่เมื่อปลูกที่บ้านจึงเพียงใช้ไม้ปักพยุงต้นไว้เป็นพอ นอกจากนั้นบนแปลงที่ปลูกเป็นอาชีพยังต้อง ทำหลังคาพลาสติกเพื่อป้องกันฝนและน้ำค้าง อีกทั้งยังมีการให้แสงไฟฟ้าคืนละ 3 ชั่วโมง เพื่อยืดก้านดอกให้ยาว แต่ความสำคัญของการสร้างดอกให้ใหญ่และสีจัดอยู่ที่การใช้สารประเภทฮอร์โมนและปุ๋ยเกล็ดฉีดพ่นทางใบ โดยใช้สูตรตัวกลาง เช่น 10-52-10 หรือ 13-40-13 และการฉีดพ่นยาป้องกันโรคราก็มีความสำคัญเช่นกัน เพราะโรคราถ้าเกิดขึ้นแล้วไม่สามารถแก้หรือรักษาได้ จึงต้องใช้วิธีป้องกันไว้ก่อนเท่านั้น
.

ทอม แม่โจ้

ข้อมูลจาก : น.ส.พ.เดลินิวส์  


"เบญจมาศ"ปลูกได้งาม...ยามหน้าหนาว
บทความสาระความรู้เกี่ยวกับไม้ประดับ2 << กลับไป
  
ไม้ประดับภายนอกอาคาร |
 ไม้ประดับภายในอาคาร
   | สวนสวยและการจัดสวน |
=