เว็บบอร์ดไม้ประดับออนไลน์
ตุลาคม 18, 2014, 05:21:44 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดไม้ประดับออนไลน์อยู่ระหว่างการทดลองใช้งานถ้ามีปัญหาถ้าพบเจอข้อผิดพลาดสมาชิกกรุณาแจ้ง webmaster ดว้ยครับ
 
  Home เว็บบอร์ด ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  

  แสดงกระทู้
หน้า: [1]
1  ไม้ดอกไม้ประดับ / บอร์ดกล้วยไม้ไทย / Re: หวั่น 'ฟ้ามุ่ยน้อย' สูญพันธุ์ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2011, 10:30:27 AM
ฟ้ามุ่ยน้อย (Vanda coerulescens Griff.) เป็นพืชหายาก มีการสำรวจในป่าดิบเขาในพื้นที่ภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดและเคยพบพืชชนิดดังกล่าวขึ้นอยู่ในธรรมชาติ  ปรากฏว่า ไม่พบฟ้ามุ่ยน้อยเหลืออยู่เลยในป่าธรรมชาติ เนื่องจากผลสำรวจสอดคล้องกับรายงานของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ที่ คาดว่าฟ้ามุ่ยน้อยได้
สูญพันธุ์จากถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติแล้ว
   
ฟ้ามุ่ยน้อย หรือ เอื้องเข็ม จัดอยู่ในบัญชีพืชอนุรักษ์บัญชีที่ 2 ภายใต้พระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ. 2518 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ตามพันธกรณีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่กำลังจะสูญพันธุ์หรือไซเตส (CITES) ซึ่งฟ้ามุ่ยน้อยเป็นกล้วยไม้อิงอาศัย มีลำต้นสูง 15-25 เซนติเมตร ใบเป็นรูปแถบ กว้าง 1-1.5 เซนติเมตร ยาว 12-25 เซนติเมตร  ดอกออกเป็นช่อตั้ง ตามข้อ ก้านช่อยาว 17-25 เซนติเมตร  จำนวน 15-20 ดอก ดอกบานเต็มที่กว้าง 1.7-2 เซนติเมตร  มีกลิ่นหอม  กลีบเลี้ยงและกลีบดอกมีสีม่วงอมฟ้า กลีบปากสีม่วงอมน้ำเงิน ขอบกลีบสีจาง และเส้าเกสรสีขาวนวล โดยจะออกดอกในช่วงเดือนมกราคม-เมษายนของทุกปี
   
ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งศึกษาวิจัยประชากรของฟ้ามุ่ยน้อยในสภาพธรรมชาติ ทั้งยังศึกษาผลกระทบอันเนื่องมาจากการค้าพืชป่า พร้อมเร่งประสานความร่วมมือสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อ.แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเพาะขยายพันธุ์เทียมฟ้ามุ่ยน้อยด้วยวิธีเพาะเมล็ดในอาหารเทียม (seed culture) เพื่อเพิ่มปริมาณมากขึ้น แล้วอนุบาลต้นให้แข็งแรงก่อนนำคืนสู่ป่าธรรมชาติซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดเดิม ขณะเดียวกันยังมีแผนส่งเสริมให้ผู้ประกอบการขยายพันธุ์เทียมฟ้ามุ่ยน้อยเพื่อการค้าเพิ่มขึ้น  โดยมีการจดทะเบียนผู้ประกอบการสถานที่เพาะเลี้ยงและผู้ส่งออกด้วย ซึ่งเป็นช่องทางหนึ่งที่จะช่วยลดปัญหาลักลอบเก็บฟ้ามุ่ยน้อยจากป่าออกมาขายและปกป้องฟ้ามุ่ยน้อยไม่ให้สูญพันธุ์ไปจากป่าตามธรรมชาติ...
   
ปัญหาการค้าพืชป่าระหว่างประเทศ ที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะพืชป่าหายากและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ซึ่งเป็นสินค้าที่นักสะสมพันธุ์ไม้มีความต้องการค่อนข้างสูง โดยมีราคาเป็นแรงจูงใจให้ชาวบ้านลักลอบเก็บจากป่าธรรมชาติออกมาขาย ส่งผลให้จำนวนพืชป่าหายากลดลงอย่างรวดเร็ว  ขณะเดียวกันจากรายงานผลการดำเนินคดีเกี่ยวกับพืชป่าของพนักงานเจ้าหน้าที่ยังพบว่ามีการลักลอบนำเข้าพืชป่าจากประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้นด้วย โดยเฉพาะตามแนวตะเข็บชายแดนไทย-พม่า แถบจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อำเภอแม่สอด จังหวัดตากและจังหวัดเชียงราย รวมทั้งจุดผ่อนปรนตามแนวชายแดนไทย-ลาว แถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามตลาดนัดท้องถิ่นทั่ว ๆ ไป รวมถึงตลาดนัดที่สำคัญในกรุงเทพฯ ด้วย ซึ่งปัจจุบันรูปแบบการค้าพืชป่าในประเทศไทยได้เปลี่ยนแปลงไป โดยมีการนำสินค้าผิดกฎหมายหมุนเวียนไปขายตามสถานที่ต่าง ๆ 
   
...การเฝ้าระวังและติดตามการลักลอบนำเข้าพืชป่าตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่องและเข้มงวด เพื่อป้องกันการค้าพืชป่าผิดกฎหมายซึ่งทำได้ค่อนข้างยากเนื่องจากมีช่องทางลักลอบนำเข้าหลายช่องทางผู้ลักลอบมีความชำนาญพื้นที่และทำเป็นขบวนการด้วย.

ขอขอบคุณ ข้อมูลเนื้อหาดีดีจาก :หนังสือพิมพ์ เดลินิวส์
2  ไม้ดอกไม้ประดับ / บอร์ดกล้วยไม้ไทย / หวั่น 'ฟ้ามุ่ยน้อย' สูญพันธุ์ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2011, 10:26:55 AM
หวั่น 'ฟ้ามุ่ยน้อย' สูญพันธุ์
3  ไม้ดอกไม้ประดับ / บอร์ด สมุนไพร,พืชผักสมุนไพร,สมุนไพรไม้ประดับ / ดอกไม้ 5ชนิดพิชิตโรค เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2011, 07:35:27 AM
อากาศเย็นช่วงฤดูหนาวปลายปี เป็นฤดูกาลของดอกไม้งามบานสะพรั่ง นอกจากจะชมกันเพลินตาแล้ว คุณรู้หรือไม่ว่า ดอกไม้หลายอย่างทานง่าย ให้ประโยชน์กับร่างกายด้วย

1) ดอกขจร
ดอกไม้หาง่ายในท้องตลาดราคาย่อมเยา ทั้งยังปลอดสารพิษ รสชาติอร่อย ส่วนใหญ่จะนำมาปรุงเป็นขนมดอกขจร หรือตอนนี้ดอกสีเขียวอ่อนนำมาผัดน้ำมันหอย ปรุงในจานยำ จิ้มน้ำพริกชุบแป้งทอด

ประโยชน์ : มีแคลเซียมสูงบำรุงกระดูกและฟัน วิตามินเอบำรุงสายตา สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเร่งกระบวนการซ่อมแซมบาดแผล

2)ดอกแค

คนโบราณบอกว่าดอกแคแก้ไข้หัวลม เหมาะจะกินช่วงปลายฝนต้นหนาว อากาศเปลี่ยนฤดู และดอกแคยังมีใยอาหารชนิดไม่ละลายน้ำ จึงช่วยในระบบขับถ่ายได้ดี เหมาะจะนำมาใส่ในแกงส้ม จานยำ หรือผัดใส่หมูสับ กุ้งสับ หรือจะลวกจิ้มน้ำพริก

ประโยชน์ : ช่วยแก้ปัญหาท้องผูก และป้องกันโรคมะเร็งลำไส้

3)ดอกโสน

ขนมดอกโสนที่คนรุ่นคุณพ่อคุณแม่รู้จักกันดี มีรสหวานชวนรับประทาน สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายชนิด เช่น นำมาชุบแป้งทอดกรอบ รับประทานกับขนมจีนน้ำพริก ผัดน้ำมันหอยนำไปลวกจิ้มน้ำพริก แกงดอกโสน ยำดอกโสน

ประโยชน์ : เป็นยาแก้ปวดมวนท้อง

4)ดอกอัญชันสีม่วง

เมื่อก่อนคนนิยมใช้นำมาปรุงแต่งสีสันอาหารให้ดูน่ารับประทาน เช่น ขนมช่อม่วง ขนมชั้น เล็บมือนาง โดยคั้นเอาน้ำมาผสมกับอาหารก่อนจะปรุง หรือหยอดสีม่วง ตอนหุงข้าวจะได้ข้าวสีสวย แต่ตอนนี้เริ่มเป็นที่นิยม โดยนำดอกไปตากแห้ง หรือใช้ดอกสดต้มน้ำและเติมน้ำตาล มะนาว ดื่มแก้กระหายคลายร้อน

ประโยชน์ : สารแอนโธไซยานิน มีอยู่มากในดอกอัญชัน จึงช่วยเพิ่มความสามารถในการมองเห็น

5)หัวปลี

เป็นดอกของต้นกล้วย กินได้ทั้งแบบดิบและสุก รสชาติจะฝาด นำกลีบมาชุบแป้งทอดกินได้ หรือจะใช้ใส่ในแกงเลียง ต้มยำไก่ กินแกล้มกับขนมจีนน้ำพริก ทำทอดมัน และอีกสารพัดเมนูของอร่อย ซึ่งหาทานได้ง่ายมาก มีมากมายตามสวนไร่นา

ประโยชน์ : บรรเทาอาการโรคกระเพาะอาหาร ใบหัวปลีมีธาตุเหล็ก บำรุงเลือด ป้องกันโลหิตจาง และลดน้ำตาลในเลือด

 

ขอขอบคุณเนื้อหาจาก : นิตยสาร 247
ผู้สนับสนุนเนื้อหา
4  ไม้ดอกไม้ประดับ / บอร์ด สมุนไพร,พืชผักสมุนไพร,สมุนไพรไม้ประดับ / ดอกไม้ 5ชนิดพิชิตโรค เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2011, 07:31:58 AM
ดอกไม้ 5ชนิดพิชิตโรค
หน้า: [1]

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.19 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!